วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ผิวขาวเกลี้ยงเนียน สาวๆห้ามพลาด แจกสูตรสบู่ครีมมะขาม ทำง่ายๆ


ผิวขาวเกลี้ยงเนียน สาวๆห้ามพลาด แจกสูตรสบู่ครีมมะขาม ทำง่ายๆ
Advertisements

ส่วนผสม

1. นมสด

2. น้ำผึ้ง

3. มะขามเปียก 2-3 ฝัก

วิธิทำ

1. เอามะขามเปียกมาประมาณ 2-3 ฝัก เอาใยออกให้หมด

2. เอามะขามเปียกไปคั้นน้ำอุ่น 2 ช้อน นมสด 6 ช้อน คั้นให้ข้น เสร็จแล้วกรองออกด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน

วิธีใช้

ใช้ครีมทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้า หรือทั่วร่างกาย รอให้แห้ง แล้วล้างออกให้สะอาด

สรรพคุณ

ใช้ล้างหน้าแทนสบู่, ชำระสิ่งสกปรก, แก้ฝ้า ทำให้ใบหน้านุ่มนวล

หมายเหตุ

1. สัดส่วนของสูตรในการทำสบู่ครีมมะขาม สามารถ ปรับได้ตามความต้องการ และสภาพของผิว

2. การเก็บสบู่ครีมมะขามให้เก็บในตู้เย็น สำหรับบางคนที่ไม่มีตู้เย็นให้ใช้วิธีนึ่งเสียก่อน จะเก็บไว้ได้นานประมาณ 1 สัปดาห์

ที่มา... มูลนิธิสุขภาพไทย
Advertisements

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

มีโอกาสรีบทำ เผยวิธีล้างเท้าขอขมาพ่อแม่ ลองทำดูแล้วชีวิตจะดีขึ้น


มีโอกาสรีบทำ  เผยวิธีล้างเท้าขอขมาพ่อแม่ ลองทำดูแล้วชีวิตจะดีขึ้น
Advertisements

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

2.ซองใส่ปัจจัยให้พ่อแม่เท่าไหร่ก็ได้ เป็นการซื้อชีวิตใหม่จากบุพการี

3.ชุดใหม่ให้พ่อแม่ นิยมเป็นชุดนอน

4.กะลังมังใบใหม่ใส่น้ำอุ่น

5.ผ้าเช็ดเท้าผืนใหม่

6.ผ้าขาว

7.ถาดใส่ของ(วางทับด้วยผ้าขาว)

ขั้นตอนประกอบพิธีล้างเท้าขอขมาพ่อแม่…

1.ก่อนทำพิธีให้อธิษฐานจิตบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดังนี้ องค์พระพุทธเจ้า ลูกชื่อ……………วันนี้ลูกตั้งใจจะขอขมา ขอโอสิกรรมจาก คุณพ่อคุณ แม่ ขอองค์พระพุทธจงบันดาลให้ลูกทำสิ่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ด้วยเทอญ แม่สื้อ เทพยดาทั้งหลาย เจ้าที่เจ้าทาง พระแม่ทรณี พระแม่คง พระแม่พระพาย พระแม่พระเพลิง วันนี้ เวลานี้ ลูกชื่อ…………………ได้ตั้งใจที่จะทำพิธีขอขมา ขออโหสิกรรมจาก คุณพ่อ คุณแม่ ขอจงเป็นพยานให้ลูกด้วยเทอญ

2.ให้พ่อกับแม่นั่งบนเก้าอี้หรือโซฟา เรานั่งกับพื้น

3.ยกเท้าท่านมาล้างในกะละมังน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ เวลานั้นอยากพูดอะไรก็พูด เช่น พ่อคะ/แม่คะ สิ่งต่างๆ ในชีวิตลูกทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต ทั้งกายก็ดี วาจาก็ดี ใจก็ดี ที่ลูกได้กระทำล่วงเกิน หรือทำให้พ่อ/แม่ไม่สบายใจ ลูกกราบขออโหสิกรรมในสิ่งเหล่านั้นด้วยนะคะ (อยากพูดไรอีกก็พูด อาจจะมีน้ำตาไรบ้าง ขนลุกบ้าง) *ล้างพ่อ/แม่พร้อมๆ กันก็ได้

4.หลังจากที่เราล้างไป พูดไป จนเสร็จ ก็นำเท้าท่านมาวางบนขาเรา ซึ่งมีผ้าเช็ดเท้ารองอยู่ เช็ดเท้าท่านให้แห้ง

5.อย่าเพิ่งให้เท่าท่านถูกพื้น ให้วางไว้บนขาเราก่อน และอธิฐานจิตพร้อมพูดบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อีกครั้งว่า..พระแม่ทรณีเจ้าขา พระแม่คงคาเจ้าขา พระแม่พระพายเจ้าขา พระแม่พระเพลิงเจ้าขา ลูกมาขอกราบขมาลาโทษ ขอเป็นทิพยญาณ นำความดีและกุศลผลบุญที่ลูกทำในครั้งนี้ ไปบอกปู่ยมราช และนายนิติยบาลให้ด้วย ให้ช่วยจดบันทึกคุณงามความดีครั้งนี้ ที่ผ่านมา ลูกจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ลูกขอรับใช้กรรม แต่หลังจากนี้ไป ลูกกราบขอชีวิตใหม่จากบุพการี

6.จากนั้นให้เราก้มหมอบลง และนำเท้าท่านมาวางบนหัวเรา

7.ให้มอบพานธูปเทียนแพกับท่าน แล้วพูดว่า พ่อคะ/แม่คะ ลูกขอขมา ขออโหสิกรรม ขอชีวิตใหม่ที่ดีให้ลูกด้วยนะคะ (ท่านก็จะพูดให้ศีลให้พร ให้ชีวิตใหม่กับเรา)

8.สุดท้าย ให้อธิษฐานจิตอีกครั้งถึงพระพุทธเจ้า ลูกชื่อ…………………..ขออนุโมธนาบุญ จากพระพุทธเจ้า ให้สำเร็จบุญนี้ให้ลูกด้วย ลูกขอนำกุศลบุญส่วนหนึ่ง อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่ติดตามลูกมาแต่อดีตชาติจนปัจจุบัน ให้รับกุศลของลูก ณ บัดนี้ เดี๋ยวนี้……..

ข้อมูลจาก... Bd Kitsana
Advertisements

เผยบทสวด คาถาค้าขายดี ก่อนขายให้สวดคาถานี้แล้วจะขายดีร่ำรวย


เผยบทสวด คาถาค้าขายดี ก่อนขายให้สวดคาถานี้แล้วจะขายดีร่ำรวย
Advertisements

บทสวดมนต์ คาถาค้าขายดีให้กับพ่อค้า แม่ค้าที่มีร้านค้าเป็นของตัวเองนะครับ ใครที่สนใจก็ให้นำบทสวดมนต์นี้ไปสวดท่องกันได้นะครับ และขอให้สินค้าของท่านขายดี...

บทสวดมนต์ คาถาค้าขายดี

บทสวดมนต์แรกนี้ ก่อนอื่นเลยให้เอาใบไม้แช่น้ำใส่ขันไว้แล้วสวดภาวนา เลร็จแล้วนำน้ำไปประพรมให้ทั่วร้าน จะทำให้ขายคล่อง

โอมอิติพุททัตสะ สุวันนัง วารัชชะคัง วามะนีวาวัตตัง วาพัพพะยัน ละเอหิคาคัชวันติ

อีกคาถาหนึ่งก็ว่ากันว่าทำให้ทำมาค้าขึ้นเหมือนกันคือ

อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา

และอีกบทสวดมนต์ คาถาค้าขายดีอีกหนึ่งบทสำหรับพ่อค้า แม่ค้าที่นิยมเสกเป่า ๓ จบ กับสินค้าเหมือนกันคือ

พุทธัง พะหุชะนานัง เอหิจิตตัง เอหิมะนุสสานัง เอหิลาภัง เอหิเมตตา

ชมภูทีเป มะนุสสานัง อิตถิโย ปุริโส จิตตัง พันธังเอหิ

บทสวดมนต์ คาถาค้าขายดีนี้ควรจะสวดภาวนาทุกวันก่อนเริ่มขายของนะครับ และอย่าลืมได้เงินมาแล้วนำไปทำบุญบ้างเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.naarn.com/5436
Advertisements

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ลองดูนะ นี่คือวิธีธรรมชาติที่จะช่วยกำจัดสารพิษทั้งหมดออกจากร่างกายของคุณ


ลองดูนะ นี่คือวิธีธรรมชาติที่จะช่วยกำจัดสารพิษทั้งหมดออกจากร่างกายของคุณ
Advertisements

แต่ก่อนชาวญี่ปุ่นจะนำแผ่นมาติดไว้ที่เท้าเพื่อทำดีท็อกซ์ มันสามารถเอาสารพิษออกจากร่างกายของเราได้แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมใช้มันแล้ว แต่เราอยากบอกว่าวิธีนี้ให้ผลลัพธ์อย่างน่าอัศจรรย์มาก!

ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือการติดแผ่นนี้ไว้ที่เท้าของคุณก่อนเข้านอน มันจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและมันจะสร้างความสมดุลให้กับระบบน้ำเหลืองของคุณและในตอนเช้าสารพิษทั้งหมดในร่างกายของคุณจะถูกขับออกมา คุณจะเห็นได้ว่าแผ่นจะมีสีดำคล้ำอย่างน่าประหลาดใจ!

หลังจากที่คุณได้ใช้แผ่นดีท๊อกซ์ไปสัก 2-3 วันคุณจะสัมผัสได้ว่าความเจ็บปวดจะลดลงและความอ่อนล้าในสมองจะน้อยลงกว่าที่เคยเป็น

แผ่นดีท็อกซ์เหล่านี้สามารถซื้อได้ทั่วไปตามร้านขาย แต่เราก็อยากแนะนำให้คุณทำใช้เองด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้!

ส่วนผสม:

หัวหอม (หอมแดง)

กระเทียม

น้ำ

แผ่นติด

ถุงเท้า

วิธีทำ:

เริ่มด้วยการหั่นกระเทียมและหัวหอม จากนั้นเทน้ำลงในหม้อนำไปต้มทิ้งไว้และใส่หัวหอมและกระเทียมที่หั่นเรียบร้อยแล้วลงในน้ำร้อนต้มทิ้งไว้ให้เดือดอีก 10 นาที

รอให้เย็นสัก 20 นาที เทส่วนผสมอย่างระวังลงในแผ่นติดให้เรียบร้อยอย่าให้เปียกเลอะเทอะ

จากนั้นติดแผ่นนี้ลงบนเท้าของคุณและใส่ถุงเท้าทับไว้อีกชั้นเพื่อไม่ให้แผ่นหลุดออกมา นำออกในตอนเช้าและคุณจะสังเกตเห็นว่ามีสารพิษหลุดออกมาติดอยู่ในแผ่นอย่างน่าประหลาดใจ!

อ้างอิง : healthandhealthyliving.com แปลข้อมูลโดย : www.rak-sukapap.com
Advertisements


Advertisements

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บอกต่อกันไป โรคงูสวัด รักษาให้หายขาดด้วยสมุนไพรชนิดนี้ ใครที่เป็นอยู่ต้องอ่าน


บอกต่อกันไป โรคงูสวัด รักษาให้หายขาดด้วยสมุนไพรชนิดนี้ ใครที่เป็นอยู่ต้องอ่าน
Advertisements

โรคงูสวัด (Herpes zoster)เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่บริเวณผิวหนังชนิดหนึ่ง ทำให้มีผื่นตุ่มขึ้นเป็นแนวยาวๆ บริเวณที่ขึ้นกันบ่อย ก็คือ แนวบั้นเอวหรือแนวชายโครง (จากสะดือถึงกลางหลัง) บางคนอาจขึ้นที่ใบหน้า แขนหรือขาก็ได้ แต่จะมีลักษณะการขึ้นคล้ายกันคือจะขึ้นเพียงซีกหนึ่งซีกใดของร่างกายเท่านั้น เช่น ซีกขวาหรือไม่ก็ซีกซ้าย โรคนี้มักไม่มีอันตรายร้ายแรง และหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ แต่บางรายหลังแผลหายแล้วอาจมีอาการปวดประสาทนานเป็นแรมปี หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมาได้ และจากความเชื่อที่ว่า เป็นรอบเอวแล้วตาย นั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะที่เสียชีวิตอาจเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ขาดภูมิต้านทานโรค การรู้จักรักษาร่างกายให้แข็งแรง เสริมภูมิต้านทานโรคให้สมบูรณ์อยู่เสมอ จึงมีความสำคัญในการป้องกันโรคและระงับความรุนแรงของโรค

สาเหตุของโรคงูสวัด

เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "เชื้อวีแซดวี (varicella-zoster virus)" ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ครั้งแรก (ซึ่งมักเกิดขึ้นในวัยเด็ก) ส่วนใหญ่จะแสดงอาการของโรคอีสุกอีใส ส่วนน้อยจะไม่มีอาการแสดงให้ปรากฏหลังจากหายจากโรคอีสุกอีใสไปแล้ว เชื้อจะหลบซ่อนอยู่บริเวณปมประสาทใต้ผิวหนัง และแฝงตัวอย่างสงบเป็นเวลานานหลายปีถึงสิบๆ ปี โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ

เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น อายุมาก ถูกกระทบกระเทือน มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนไม่พอ ติดเชื้อเอชไอวี เป็นมะเร็ง ใช้ยาต้านมะเร็งหรือยา กดภูมิคุ้มกัน เชื้อที่แฝงตัวอยู่นั้นก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวน และกระจายในปมประสาท ทำให้เส้นประสาทอักเสบ (เกิดอาการปวดตามแนวเส้นประสาท) เชื้อจะกระจายไปตามเส้นประสาทที่อักเสบ และปล่อยเชื้อไวรัสออกมาที่ผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มใสเรียงเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาท ที่เป็นโรคงูสวัดจึงมักมีประวัติเคยเป็นอีสุกอีใสในวัยเด็ก หรือเคยมีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มาก่อน โดยไม่มีอาการแสดง ซึ่งสามารถตรวจพบสารภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสชนิดนี้ในเลือด

อาการของโรคงูสวัด

ก่อนมีผื่นขึ้น 1-3 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแปลบๆ บริเวณเส้นประสาทที่เป็นงูสวัด อาจมีอาการคันและแสบ ร้อน (คล้ายถูกไฟไหม้) เป็นพักๆ หรือตลอดเวลาบริเวณ พบบริเวณชายโครง ใบหน้า แขนหรือเพียงข้างเดียว อาจทำให้คิดว่าเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อ ถ้าปวด ที่ชายโครง ก็อาจทำให้คิดว่าเป็นโรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหาร ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วในไต ไส้ติ่งอักเสบได้ ถ้าปวดที่ใบหน้าข้างเดียว อาจทำให้คิดว่าเป็นไมเกรน หรือโรคทางสมองได้ บางรายอาจมีอาการไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ท้องเดินร่วมด้วย

ส่วนมากมีผื่นขึ้นตรงบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มใสเรียงตามแนวผิวหนังที่เลี้ยง โดยเส้นประสาทที่อักเสบ ตุ่มน้ำมักทยอยขึ้นใน 4 วันแรก แล้วค่อยๆ แห้งตกสะเก็ดใน 7-10 วัน เมื่อตกสะเก็ดและหลุดออกไป อาการปวดจะทุเลาไป รวมแล้วจะมีผื่นอยู่นาน 10-15 วัน ผู้ที่มีอายุมากอาจ มีอาการนานเป็นเดือนกว่าจะหายเป็นปกติ

โรคงูสวัด รักษาให้หายได้ด้วย สมุนไพรไทย

-กระชับ (Xanthium strumarium L.) ใช้ส่วนของใบเป็นยาแก้พิษงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-กระแตไต่ไม้ (Drynaria quercifolia (L.) J. Sm.) ใช้เหง้านำมาฝนทาแก้งูสวัด

-กระพังโหม (Paederia foetida L.) มีข้อมูลระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้ใช้รักษาโรคงูสวัดได้แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้เอาไว้ (แต่คาดว่าน่าจะใช้ทั้งต้นและใบ)

-ก้างปลาเครือ (Phyllanthus reticulatus Poir.) รากมีสรรพคุณเป็นยาขับพิษ ใช้ทาแก้งูสวัดได้

-กำจัดดอย (Zanthoxylum acanthopodium DC.) ตามรายงานระบุว่า นอกจากจะใช้เมล็ดกำจัดดอยเป็นยาแก้อีสุกอีใสได้แล้ว ยังใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ด้วย

-เขยตาย (Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC.) ใช้ใบเขยตายนำมาขยี้หรือบดผสมกับเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์หรือน้ำมะนาว ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด

-จักรนารายณ์ (Gynura divaricata (L.) DC.) ด้วยการนำใบมาตำกับน้ำตาลทรายแดง เพื่อให้จับตัวกันเป็นก้อน ๆ และไม่หลุดได้ง่าย แล้วนำมาพอกตรงรอยแผลทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือจะนำใบมาคั้นเอาแต่น้ำใช้ทาสด ๆ หรือใช้ตำพอกเลยก็ได้

-ชุมเห็ดไทย (Senna tora (L.) Roxb.) ให้ใช้รากสด ๆ นำมาบดผสมกับน้ำมะนาวใช้รักษางูสวัด

-ตะขาบหิน (Homalocladium platycladum (F.Muell.) L.H.Bailey) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้โรคงูสวัด

-ตำลึง (Coccinia grandis (L.) Voigt) ให้ใช้ใบตำลึงสด ๆ ประมาณ 2 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาผสมกับพิมเสนหรือดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด

-เทียนบ้าน (Impatiens balsamina L.) ให้ใช้ต้นสด นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยา ส่วนกากที่เหลือให้เอามาพอกบริเวณที่เป็น

-น้อยหน่า (Annona squamosa L.) ผลแห้งมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-นางแย้ม (Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb.) ให้นำรากมาฝนกับน้ำปูนใส ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด

-น้ำเต้า (Lagenaria siceraria (Molina) Standl.) ให้ใช้ใบน้ำเต้าสด ๆ นำมาโขลกผสมกับเหล้าขาว หรือโขลกเพื่อคั้นเอาแต่น้ำ หรือใช้ใบสดผสมกับขี้วัวแห้งหรือขี้วัวสด โดยโขลกให้เข้ากันจนได้ที่ แล้วผสมกับเหล้าขาว 40 ดีกรี (การผสมขี้วัวเข้าใจว่าขี้วัวมีแอมโมเนีย จึงทำให้เย็นและช่วยถอนพิษอักเสบได้ดีกว่าตัวยาอื่น) ใช้เป็นยาทาถอนพิษร้อน ดับพิษ แก้อาการฟกช้ำบวม พุพอง แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน รักษาอาการพองตามผิวหนังตามตัว แก้เริม รวมทั้งงูสวัดได้ดี

-น้ำนมราชสีห์เล็ก (Euphorbia thymifolia L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยาแก้งูสวัดขึ้นรอบเอว ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 1 กำมือ และกระเทียม 1 หัว นำมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำสุดที่เย็นแล้ว ใช้ทาบริเวณที่เป็นตุ่ม

-ปลาไหลเผือก (Eurycoma longifolia Jack) ให้ใช้ยาผง (จากปลาไหลเผือก) ผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาใช้ทารอบแผลอย่างช้า ๆ

-ผักเชียงดา (Gymnema inodorum (Lour.) Decne.) ใช้ใบสดตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด

-ผักบุ้งทะเล (Ipomoea pes-caprae (L.) R. Br.) ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยกระจายพิษ แก้พิษฝีบวม ฝีหนองบวมแดงอักเสบ รวมทั้งช่วยแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-ผักเป็ดน้ำ (Alternanthera philoxeroides (Mart.) Griseb.) ใช้ทั้งต้นสด ๆ นำมาตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด

-ผักเสี้ยน (Cleome gynandra L.) ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-พญาท้าวเอว (Oxyceros bispinosus (Griff.) Tirveng.) ด้วยการใช้ลำต้นนำมาฝนกับน้ำปูนใสกินเป็นยาแก้งูสวัด

-พลูคาว (Houttuynia cordata Thunb.) จากข้อมูลระบุว่า พลูคาวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ทรพิษ หัด เริม เอดส์ รวมถึงงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-พุดตาน (Hibiscus mutabilis L.) ให้ใช้ใบสดประมาณ 4-5 ใบ นำมาล้างน้ำสะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าวลงไป แล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นบ่อย ๆ หรืออีกวิธีก็คือการใช้รากพุดตานสดนำมาตำแล้วพอก หรือจะนำรากแห้งมาบดให้เป็นผงผสมแล้วใช้พอกก็ได้

-เพกา (Oroxylum indicum (L.) Kurz) ให้ใช้เปลือกต้นเพกา เปลือกคูน และรากต้นหมูหนุน นำมาฝนใส่น้ำทาบริเวณที่เป็น จะช่วยให้โรคงูสวัดหายเร็วขึ้น

-แพงพวยน้ำ (Ludwigia adscendens (L.) H.Hara) ใช้ทั้งต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Nees) ให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรก่อนอาหาร 2-3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากงูสวัดคือเชื้อไวรัสที่จะอยู่นาน 3 สัปดาห์ ถ้าใช้รักษาให้ครบตามเวลา ก็จะทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก

-มะรุม (Moringa oleifera Lam.) จากข้อมูลระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้

-มันเทศ (Ipomoea batatas (L.) Lam.) ตำรายาไทยจะใช้หัวมันเทศนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกแผล รักษาเริม และงูสวัด

-ไมยราบ (Mimosa pudica L.) จากข้อมูลระบุว่า ใบไมยราบมีสรรพคุณช่วยแก้อาการงูสวัดได้ (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-ย่านาง (Limacia triandra Miers) จากข้อมูลระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้

-รางจืด (Thunbergia laurifolia Lindl.) ใบและรากมีสรรพคุณเป็นยาต้านการอักเสบต่าง ๆ เช่น อาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย เริม อีสุกอีใส รวมทั้งงูสวัด

-ลางสาด (Lansium parasiticum (Osbeck) K.C.Sahni & Bennet) เมล็ดลางสาดมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-ว่านมหากาฬ (Gynura pseudochina (L.) DC.) ใช้ใบสดตำพอกรักษางูสวัด โดยใช้ใบสดประมาณ 5-6 ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำในภาชนะที่สะอาด ใส่พิมเสนเล็กน้อย หรือใช้ใบโขลกผสมกับเหล้า แล้วเอาน้ำที่ได้มาทาหรือพอกบริเวณที่เป็น

-สตรอว์เบอร์รี่ป่า (Duchesnea indica (Jacks.) Focke) ใบและก้านใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังผดผื่นคัน ฝีมีหนอง รวมทั้งงูสวัด

-สนุ่น (Salix tetrasperma Roxb.) ใบสนุ่นมีรสจืดเย็นเมา น้ำคั้นจากใบสด ใช้เป็นยาทา พอก หรือพ่นแก้พิษงูสวัดได้

-สายน้ำผึ้ง (Lonicera japonica Thunb.) ผู้ที่เป็นงูสวัดที่ดูเหมือนแผลจะหายดีแล้ว แต่ยังมีพิษของโรคงูสวัดตกค้างในร่างกาย คือมีอาการปวดแสบปวดร้อนและบวม ให้ใช้ดอกสายน้ำผึ้ง 10 กรัม, ใบโด่ไม่รู้ล้ม 10 กรัม, ข้าวเย็นเหนือ 30 กรัม, และข้าวเย็นใต้ 30 กรัม (แบบแห้งทั้งหมด) นำมาต้มรวมกันในน้ำ 1 ลิตร จนเดือด ใช้ดื่มในขณะอุ่นครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยให้ดื่มไปเรื่อย ๆ จะช่วยขับพิษของโรคงูสวัดที่ตกค้างในร่างกายออกได้ และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด

-เสลดพังพอนตัวผู้ (Barleria lupulina Lindl.) เสลดพังพอนตัวผู้ ให้ใช้ใบสด (ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) ประมาณ 10-20 ใบ นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น (วิธีการใช้จะเหมือนกับเสลดพังพอนตัวเมีย แต่เสลดพังพอนตัวผู้จะมีฤทธิ์ทางยาอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย ชาวบ้านจึงนิยมใช้เสลดพังพอนมาทำเป็นยาเสียมากกว่า)

-เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอ (Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau) ให้ใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด ๆ ประมาณ 10-20 ใบ (เลือกเอาเฉพาะใบสดสีเขียวเข้มเป็นมน ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาวคั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำมาทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น ส่วนตำรับยาแก้งูสวัดอีกตำรับจะใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด ๆ นำมาผสมกับดอกลำโพง และโกฐน้ำเต้า อย่างละเท่ากัน รวมกันตำให้พอแหลก แช่กับเหล้า แล้วนำมาใช้ทาแก้แผลงูสวัด

-แสมสาร (Senna garrettiana (Craib) H.S.Irwin & Barneby) ใช้ใบเป็นยาบำบัดโรคงูสวัด

-หญ้าเกล็ดหอยเทศ (Hydrocotyle sibthorpioides Lam.) ใช้ทั้งต้นนำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลงูสวัด

-หญ้าดอกขาว (Cyanthillium cinereum (L.) H.Rob.) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้งูสวัด

-หญ้าพันงูแดง (Cyathula prostrata (L.) Blume) ใช้ใบสดตำพอกแก้งูสวัด

-หวดหม่อน (Clausena excavata Burm.f.) ตำรับยาพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากหวดหม่อนนำมาฝนกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคงูสวัด

-เหงือกปลาหมอ (Acanthus ebracteatus Vahl) ให้ใช้รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้

-เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum (Curtis) P. Karst) จากข้อมูลระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัส อย่างไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส และงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

-อ้อย (Saccharum officinarum L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)

ชาวบ้านมักมีความเชื่อ “ถ้าเป็นงูสวัดพันรอบเอวเมื่อใด จะทำให้ตายได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงสักทีเดียวนะครับ เพราะในคนธรรมดาที่มีภูมิคุ้มกันปกติ งูสวัดจะไม่สามารถพันรอบตัวเราจนครบรอบเอวได้ เนื่องจากแนวเส้นประสาทของตัวเราจะมาสิ้นสุดที่บริเวณกึ่งกลางของลำตัวเท่านั้น จะไม่ลุกลามเข้ามาแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่งของร่างกาย และส่วนมากก็จะขึ้นเพียงข้างเดียวเท่านั้น อีกทั้งโรคนี้ก็มีโอกาสทำให้ตายได้น้อยมาก” คือถ้าจะเป็นอันตรายจริง ๆ ก็คงเกิดจากการอักเสบซ้ำจากเชื้อแบคทีเรียจนกลายเป็นโลหิตเป็นพิษเสียมากกว่า

หากใครเป็นงูสวัดก็ไม่ต้องกลัวหรือตื่นตกใจไปนะครับ เพราะในปัจจุบันนี้เราสามารถรักษาโรคงูสวัดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่อย่างไรก็ตาม งูสวัดที่จะเป็นรุนแรงทั่วร่างกายหรือพันรอบตัวนั้นอาจพบได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เอดส์ ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ฯลฯ ถ้าเกิดเป็นงูสวัดขึ้นมาก็อาจทำให้ปรากฏขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกันจนดูเหมือนงูสวัดพันข้ามแนวกึ่งกลางลำตัวไปยังอีกซีกหนึ่งของร่างกายหรือเป็นงูสวัดทั่วร่างกายได้ ซึ่งแบบนี้อาจทำให้มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : http://kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก : phyathai.com , medthai.com
Advertisements


Advertisements

ใครทำอยู่เลิกซะ สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนนอน เพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้


ใครทำอยู่เลิกซะ สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนนอน เพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
Advertisements

เชื่อว่าหลายๆคนคงเป็นเหมือนๆกันอย่างแน่นอน สำหรับก่อนนอนที่มักจะต้องมีกิจกรรมอะไรมาทำก่อนนอน ไม่งั้นจะนอนไม่หลับ หรืออาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องทำมันก่อนจะนอน ซึ่งบางพฤติกรรมก็ส่งผลต่อการนอนหลับ และส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วย วันนี้ไข่เจียวจะพาไปดู "สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนนอน" เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการนอนหลับแล้ว ยังอาจมีอันตรายต่อชีวิตอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1) ไม่ถอดนาฬิกาข้อมือก่อนนอน บางคนอาจจะลืมที่จะถอดเจ้านาฬิกาข้อมือก่อนจะนอน แต่รู้หรือไม่ว่า นาฬิกาข้อมือ ไม่ว่าจะขนาดไหนก็ส่งพลังงานด้วยกันทั้งสิ้น อาจจะรบกวนการนอนหลับของคุณได้

2) คุยโทรศัพท์มือถือจนหลับไป การคุยโทรศัพท์จนเผลอหลับไป หรือการวางเครื่องมือสื่อสารไว้ใกล้ตัว คลื่นของโทรศัพท์มือถือ นอกจากจะรวบกวนการนอนหลับแล้ว ยังทำลายสมองอีกด้วยนะ หากใครที่ชอบวางโทรศัพท์ไว้ใกล้ตัว หรือใช้เป็นนาฬิกาปลุก ลองเปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกจริงๆดีกว่า

3) ไม่ล้างเครื่องสำอางค์ก่อนนอน สาวๆหลายคนมักจะเป็น หากคุณไปเที่ยวมาดึกๆอาจจะขี้เกียจล้างเครื่องสำอาง แต่มันทำร้ายผิวในระยะยาว เพราะการคืนเป็นเวลาที่เราจะได้พักผิว

4) ดื่มน้ำก่อนนอนมากๆ อาจจะทำให้คุณปวดปัสสาวะตลอดคืน และถ้าใครขี้เกียจ อั้นปัสสาวะจนตื่น อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและมีอาการบวมน้ำได้ด้วย

5) นอนหลับในระหว่างวัน ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ทางที่ดีควรนอนให้เต็มที่ในตอนกลางคืน และเข้านอนเวลาเดิมทุกครั้ง สมองจะได้ปิดง่ายๆ

6) อ่านหนังสือก่อนนอน มันอาจทำให้สมองต้องทำงานหนักก่อนนอน และตื่นตัวอยู่ตลอด นอนหลับยาก

7) ควรทานอาหารเย็นก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง เพราะหากคุณทานอาหารเย็นแล้วรีบเร่งเข้านอน จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักในขณะที่คุณหลับ

8) ไม่ควรใส่ยกทรงนอน สำหรับสาวๆที่ชอบสวมใส่ยกทรงในเวลานอน ควรหยุดพฤติกรรมนี้โดยด่วน จากการวิจัยพบว่า การสวมใส่ยกทรงเกิน 12 ชั่วโมง จะเพิ่มอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งทรวงอกได้

เห็นมั้ยละคะว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆที่หลายคนทำจนติดนิสัย อาจจะสร้างอันตรายให้กับร่างกายของคุณได้ อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันนะจ๊ะ

ที่มา...kaijeaw.com
Advertisements


Advertisements